เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะประสูติได้5วันโกณฑัญญะพราหมณ์ซึ่งหนุ่มที่สุดในบรรดาพราหมณ์ 108 คนได้ทำนายลักษณะพระราชกุมารเป็นทางเดียวว่า“จะเสด็จออกบวชได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในโลกอย่างแน่นอน”ท่านเองก็มีความเลื่อมใสศรัทธาจะออกบวชตาม เมื่อทราบข่าวการออกบวชของเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารจึงได้ชักชวนพราหมณ์อีก 4 ท่าน คือ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ ทั้งหมดรวมเรียกว่า ปัญจวัคคีย์ แปลว่า กลุ่มคน 5 คน”ท่านได้เป็นหัวหน้าปัญจวัคคีย์อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยาอยู่ 6 ปี แต่ไม่ทรงตรัสรู้ จึงทรงเลิกแล้ว กลับมาบำเพ็ญเพียรทางจิต
หลังจากที่ท่านได้ฟังพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกชื่อว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” จบโกณฑัญญะพราหมณ์ ก็เกิดดวงตาเห็นธรรม คือ บรรลุพระโสดาบันว่า “สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา” ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงเปล่งพระอุทานว่า“โกณฑัญญะรู้แล้วหนอๆ” จากนั้นท่านจึงได้ชื่อใหม่ว่า “อัญญาโกณฑัญญะ” เพราะเหตุที่ท่านได้บรรลุธรรมก่อนใครทั้งหมดนั้นเอง
ท่านได้ขออุปสมบท และพระพุทธองค์ทรงอนุญาต และตรัสว่า “เธอจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว เธอจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบเถิด” การอุปสมบทอย่างนี้ เรียกว่า “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” และท่านได้เป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา หรือปฐมสาวกนั้นเอง
ท่านบวชไม่นานก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ เพราะพระธรรมเทศนาชื่อว่า “อนัตตลักขณสูตร”ได้แก่สูตรที่ว่าด้วยรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณไม่ใช่ตัวตน และได้รับยกย่องว่า เป็นเลิศในทางผู้รู้ราตรี (รัตตัญญู) คือรู้ธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนก่อนใครทั้งหมด
- ท่านเป็นหนึ่งในปัญจวัคคีย์ทั้ง
5 และเป็นหัวหน้า
- ท่านเป็นผู้เลิศด้านรัตตัญญู
คือผู้รู้ราตรีนาน เพราะบวชก่อนใครทั้งหมด
- ท่านได้หลานชาย
(ลูกน้องสาว) คือพระปุณณมันตานีบุตรเป็นลูกศิษย์
และได้มีกุลบุตรบวชในสำนักของท่านเป็นจำนวนมาก
- ท่านเป็นปฐมสาวก
(พระสงฆ์รูปแรก) ในพระพุทธศาสนา